trustfinance-logo
TrustFinance

การลงทุนทองคำ ปี2026 เปรียบเทียบ 5 วิธีทำกำไรพร้อมผลตอบแทนจริง

User profile image

Thanakit Sutto

Thg 11 11, 2025

43

|

7 min read


Blog image

การลงทุนทองคำในปี 2025 กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทยท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทองคำไม่เพียงแต่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยรักษามูลค่าเงินในระยะยาว แต่ยังสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน การเลือกวิธีการลงทุนทองคำที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมการลงทุนทองคำจึงน่าสนใจในปี 2026

ราคาทองคำในตลาดโลกปัจจุบันยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินต่อไป นโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกที่อาจต้องผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความต้องการทองคำจากประเทศในเอเชียโดยเฉพาะจีนและอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลจาก World Gold Council ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาส 3/2024 เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะความต้องการจากธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้นถึง 14% การลงทุนทองคำจึงไม่ใช่เพียงการป้องกันความเสี่ยง แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างผลกำไรที่ดีในระยะยาวอีกด้วย

image.png

1. การลงทุนทองคำแท่ง มาตรฐานความมั่นคง

การลงทุนในทองคำแท่งถือเป็นวิธีการลงทุนทองคำที่ตรงไปตรงมาและเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนไทย ทองคำแท่งมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท ไปจนถึง 1 กิโลกรัม โดยทองคำแท่งที่ได้มาตรฐานจะมีความบริสุทธิ์ 96.5% ขึ้นไป การซื้อทองคำแท่งจากร้านทองที่เชื่อถือได้จะทำให้คุณมั่นใจในคุณภาพและสามารถขายคืนได้ง่ายเมื่อต้องการเงินสด

วิธีการลงทุนและขั้นตอนการซื้อทองคำแท่ง

การซื้อทองคำแท่งสามารถทำได้หลายช่องทาง ทั้งการซื้อจากร้านทองโดยตรงซึ่งควรเลือกร้านที่ได้รับการรับรองจากสมาคมค้าทองคำ การซื้อผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการซื้อขายทองคำ หรือการซื้อผ่านตลาดทองคำออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ขั้นตอนการซื้อเริ่มจากการตรวจสอบราคาทองคำประจำวันจากสมาคมค้าทองคำ เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง ตรวจสอบใบรับประกันและตราประทับมาตรฐานบนทองคำแท่ง และเก็บใบเสร็จรับเงินไว้เป็นหลักฐานสำหรับการขายคืนในอนาคต

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนทองคำแท่ง

ข้อดีของการลงทุนทองคำแท่งคือความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่จับต้องได้จริง ไม่มีความเสี่ยงจากการล้มละลายของสถาบันการเงิน สามารถเก็บรักษาไว้เองได้ตามต้องการ และมีสภาพคล่องสูงเพราะขายได้ทุกร้านทอง ส่วนต่างราคาซื้อขายต่ำกว่าทองรูปพรรณ โดยปกติอยู่ที่ 500-600 บาทต่อบาททอง ตามข้อมูลจากสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568

ข้อเสียคือต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ เริ่มต้นอย่างน้อย 30,000-40,000 บาทต่อบาททอง มีความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกโจรกรรม ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาหากฝากกับธนาคารหรือตู้นิรภัย ซึ่งมีค่าธรรมเนียมประมาณ 0.5-1% ของมูลค่าต่อปี และไม่ได้รับผลตอบแทนระหว่างถือครอง ต้องรอราคาขึ้นเท่านั้นถึงจะมีกำไร

ผลตอบแทนและแนวโน้มราคา

ตามข้อมูลจากสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่งในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2024 อยู่ที่ 32,350 บาทต่อบาททอง และปรับขึ้นมาอยู่ที่ 41,950 บาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2024 คิดเป็นผลตอบแทน 29.67% ในช่วง 10 เดือน สำหรับแนวโน้มปี 2025-2026 นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ราคาทองคำจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 2,700-2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ UBS คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 2,500-2,750 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

image.png

2. การออมทอง ความยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนรายย่อย

การออมทองเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนรายย่อย เพราะสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาทต่อเดือน ระบบออมทองออนไลน์ทำให้การลงทุนสะดวกขึ้นมาก สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชันมือถือ และไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาเพราะผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลให้

ระบบการทำงานและผู้ให้บริการออมทอง

ผู้ให้บริการออมทองที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เช่น Hua Seng Heng Gold Saving, YLG Bullion, และ Aurora Gold มีระบบการทำงานคล้ายกัน คือผู้ลงทุนสามารถซื้อทองเป็นน้ำหนักหรือเป็นมูลค่าเงินบาท โดยเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 0.01 กรัม หรือประมาณ 20-30 บาท ระบบจะคำนวณปริมาณทองคำที่ได้ตามราคาตลาด ณ เวลาที่ซื้อ และเก็บข้อมูลไว้ในบัญชีออนไลน์ เมื่อสะสมครบ 1 บาททองสามารถแลกเป็นทองคำแท่งจริงได้ หรือจะขายคืนเป็นเงินสดก็ได้ทันที

ข้อดีและข้อเสียของการออมทอง

ข้อดีของการออมทองคือสามารถเริ่มต้นด้วยเงินน้อย เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเหลือไม่มากในแต่ละเดือน มีความยืดหยุ่นในการซื้อขาย ทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเก็บรักษาทองคำเอง ลดความเสี่ยงจากการสูญหาย และสามารถติดตามมูลค่าพอร์ตได้แบบ Real-time ผ่านแอปพลิเคชัน เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนรูปแบบอื่น ออมทอง Vs กองทุนรวมทองคำ การออมทองให้ความยืดหยุ่นมากกว่าแต่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเหมือนกองทุน RMF/SSF

ข้อเสียคือมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายประมาณ 2-3% ซึ่งสูงกว่าการซื้อทองคำแท่งโดยตรง ความเสี่ยงจากผู้ให้บริการที่อาจประสบปัญหาทางการเงิน แม้ว่าผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีการแยกเก็บทองคำของลูกค้าไว้ต่างหาก และการแลกเป็นทองคำจริงอาจมีเงื่อนไขขั้นต่ำและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

การคำนวณผลตอบแทนและกลยุทธ์การออม

ตามสถิติจาก YLG Bullion นักลงทุนที่ออมทองแบบ Dollar Cost Average สม่ำเสมอทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี 2024 จะได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 27.3% ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2024 กลยุทธ์ที่แนะนำคือการตั้งเป้าหมายออมระยะยาว 3-5 ปี ออมสม่ำเสมอทุกเดือนเพื่อเฉลี่ยต้นทุน และเพิ่มการออมในช่วงที่ราคาปรับลง นอกจากนี้ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี

image.png

3. กองทุนรวมทองคำ การบริหารจัดการโดยมืออาชีพ

กองทุนรวมทองคำเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกและการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ กองทุนรวมทองคำในประเทศไทยมีหลายประเภท ทั้งที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ลงทุนในหุ้นบริษัทเหมืองทอง หรือลงทุนใน Gold ETF ต่างประเทศ

ประเภทของกองทุนรวมทองคำและนโยบายการลงทุน

กองทุนรวมทองคำแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง (Gold Fund) ซึ่งจะซื้อทองคำแท่งเก็บไว้และปรับมูลค่าตามราคาทอง กองทุนที่ลงทุนในหุ้นบริษัทเหมืองทอง (Gold Mining Fund) ที่ลงทุนในหุ้นบริษัทผลิตทองคำทั่วโลก และกองทุนผสม (Mixed Gold Fund) ที่ลงทุนทั้งทองคำและหุ้นเหมืองทอง นักลงทุนควรศึกษา 5 กองทุนรวมทองคำ ผลตอบแทนแรงสุดปี 2025 เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้

ข้อดีและข้อเสียของกองทุนรวมทองคำ

ข้อดีคือสามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินน้อย บางกองทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแลบริหารจัดการ ซื้อขายได้ทุกวันทำการผ่านบริษัทจัดการหรือตัวแทนขาย ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากเป็นกองทุน LTF หรือ RMF ที่ลงทุนในทองคำ และมีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหลายสินทรัพย์

ข้อเสียคือมีค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.5-2% ต่อปี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่หักจากกองทุน ผลตอบแทนอาจไม่ตรงกับราคาทองคำ 100% เนื่องจากต้นทุนและกลยุทธ์การลงทุน มีความเสี่ยงจากการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุน และการซื้อขายทำได้เฉพาะวันทำการ ไม่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนทองคำจริง

ผลตอบแทนและการเลือกกองทุน

ตามข้อมูลจาก Morningstar Thailand กองทุนรวมทองคำที่ลงทุนในทองคำโดยตรงให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 24.5% ในปี 2024 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2024) ขณะที่กองทุนที่ลงทุนในหุ้นเหมืองทองให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 31.2% แต่มีความผันผวนสูงกว่า การเลือกกองทุนควรพิจารณาจากประวัติผลตอบแทนย้อนหลังอย่างน้อย 3-5 ปี ค่าธรรมเนียมรวม ขนาดกองทุน และความสามารถของผู้จัดการกองทุน

image.png

4. Gold ETF นวัตกรรมการลงทุนยุคใหม่

Gold ETF หรือกองทุนอีทีเอฟที่ลงทุนในทองคำ เป็นเครื่องมือการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะรวมข้อดีของการลงทุนทองคำแท่งกับความสะดวกของการซื้อขายหุ้น

การทำงานและประเภทของ Gold ETF

Gold ETF ทำงานโดยการออกหน่วยลงทุนที่มีทองคำแท่งหนุนหลังเต็มจำนวน เมื่อนักลงทุนซื้อ ETF เท่ากับเป็นเจ้าของทองคำในสัดส่วนที่ถือหน่วย ETF ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทยมี OneGold ETF (1GOLD) ซึ่งอ้างอิงราคาทองคำในประเทศ และ ETF ต่างประเทศที่ซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เช่น SPDR Gold Trust (GLD) และ iShares Gold Trust (IAU) นักลงทุนควร รู้จัก Gold ETF ทางเลือกใหม่ของการลงทุนในทองคำ เพื่อเข้าใจกลไกการทำงานอย่างละเอียด

ข้อดีและข้อเสียของ Gold ETF

ข้อดีของ Gold ETF คือซื้อขายได้เหมือนหุ้นผ่านบัญชีหลักทรัพย์ มีสภาพคล่องสูงมาก ราคาโปร่งใสเคลื่อนไหวตามราคาทองคำแบบ Real-time ค่าธรรมเนียมการจัดการต่ำเพียง 0.25-0.40% ต่อปี สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิด และสามารถใช้เทคนิคการเทรดต่างๆ เช่น Stop Loss หรือ Take Profit ได้

ข้อเสียคือต้องมีบัญชีหลักทรัพย์และความรู้ในการซื้อขายหุ้น มีค่าคอมมิชชั่นนายหน้าประมาณ 0.15-0.25% ต่อรายการ ETF ต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่สามารถแลกเป็นทองคำจริงได้สำหรับนักลงทุนรายย่อย และอาจมีส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขาย (Spread) ในช่วงที่ตลาดผันผวน

ผลตอบแทนและกลยุทธ์การลงทุน

ตามข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย OneGold ETF (1GOLD) ให้ผลตอบแทน 28.4% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2024 ขณะที่ SPDR Gold Trust (GLD) ให้ผลตอบแทน 26.7% ในสกุลเงินดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2024) กลยุทธ์การลงทุนที่นิยมคือการถือระยะยาวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ต โดยจัดสรรประมาณ 5-15% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด หรือใช้เทคนิค Momentum Trading ในช่วงที่ทองคำมีแนวโน้มชัดเจน

image.png

5. การเทรดทองคำออนไลน์ โอกาสสำหรับนักเก็งกำไร

การเทรดทองคำออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Forex หรือ CFD เป็นวิธีการลงทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และชอบความท้าทาย การเทรดทองคำแตกต่างจากการซื้อทองคำเก็บไว้อย่างสิ้นเชิง เพราะเน้นการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น

แพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรด

แพลตฟอร์มเทรดทองคำที่นิยมในไทย เช่น XM, Exness, FBS มีเครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย ทั้ง MetaTrader 4/5 ที่มีระบบชาร์ตและอินดิเคเตอร์ครบครัน ระบบ Copy Trading ที่ให้มือใหม่คัดลอกการเทรดจากมืออาชีพ และ Expert Advisor (EA) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ การเทรดทองคำใช้สัญลักษณ์ XAUUSD (ทองคำต่อดอลลาร์) โดยมี Leverage สูงสุดถึง 1:500 ในบางโบรกเกอร์ ทำให้สามารถเทรดด้วยเงินน้อยแต่ได้กำไรมาก

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดทองคำ

ข้อดีคือใช้เงินลงทุนน้อยเพราะมีระบบ Leverage สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงด้วยการ Long หรือ Short ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ มีสภาพคล่องสูงมาก Spread ต่ำ และมีเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์และจัดการความเสี่ยงที่ครบครัน นักลงทุนควรเปรียบเทียบ เทรดทอง vs ซื้อทอง แบบไหนดีกว่ากัน เพื่อตัดสินใจให้เหมาะกับสไตล์การลงทุน

ข้อเสียคือมีความเสี่ยงสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ Leverage ในระดับสูง อาจขาดทุนได้มากกว่าเงินต้น (ถ้าไม่มีระบบ Negative Balance Protection) ต้องใช้เวลาศึกษาและฝึกฝนมากกว่าจะเทรดได้กำไร มีค่า Swap หรือค่าดอกเบี้ยถ้าถือข้ามคืน และมีความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ที่อาจไม่น่าเชื่อถือ

สถิติและกลยุทธ์การเทรดที่ประสบความสำเร็จ

ตามการสำรวจของ Finance Magnates ในปี 2024 พบว่านักเทรดเพียง 15-20% เท่านั้นที่ทำกำไรได้ในระยะยาว โดยนักเทรดที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ Trend Following ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด เช่น ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรด ใช้ Risk-Reward Ratio อย่างน้อย 1:2 และมี Trading Plan ที่ชัดเจน นักเทรดมืออาชีพแนะนำให้เริ่มต้นด้วยบัญชี Demo อย่างน้อย 3-6 เดือน และใช้เงินจริงไม่เกิน 5-10% ของเงินลงทุนทั้งหมด

image.png

เทรนด์การลงทุนทองคำปี 2026 มองไปข้างหน้า

การเติบโตของ Digital Gold และ Tokenized Gold

ปี 2026 คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Digital Gold และ Tokenized Gold บน Blockchain ตามรายงานของ World Gold Council การลงทุนทองคำดิจิทัลจะเติบโต 35-40% ต่อปี โดยมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการบันทึกความเป็นเจ้าของ ทำให้การซื้อขายโปร่งใสและปลอดภัยมากขึ้น นักลงทุนสามารถซื้อทองคำเป็นเศษส่วนได้ง่าย โอนให้กันได้ทันที และมีค่าธรรมเนียมต่ำ

ESG Gold และการลงทุนทองคำที่ยั่งยืน

แนวโน้ม ESG (Environmental, Social, Governance) จะมีอิทธิพลต่อการลงทุนทองคำมากขึ้น นักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของทองคำ โดยเลือกลงทุนในทองคำที่ผลิตอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีการดูแลชุมชนท้องถิ่น ทองคำที่ได้รับการรับรอง Responsible Gold Mining จะมีราคา Premium สูงขึ้น คาดว่าในปี 2026 กว่า 30% ของการลงทุนทองคำใหม่จะเป็น ESG Gold

Central Bank Digital Currency (CBDC) และผลกระทบต่อทองคำ

การเปิดตัว CBDC ของธนาคารกลางทั่วโลกจะส่งผลต่อบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ตามการคาดการณ์ของ Bank for International Settlements กว่า 24 ประเทศจะเปิดใช้ CBDC ภายในปี 2026 ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในฐานะเงินสำรองของธนาคารกลางเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใน CBDC นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเพิ่มการถือครองทองคำอีก 500-700 ตันในปี 2026

image.png

สรุปเปรียบเทียบผลตอบแทนและความเหมาะสม

เมื่อพิจารณาการลงทุนทองคำทั้ง 5 วิธีในปี 2025 แต่ละวิธีมีจุดเด่นและเหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละประเภทแตกต่างกัน ทองคำแท่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินทุนมากและต้องการถือระยะยาว ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงราคาตลาดมากที่สุด การออมทองเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการสะสมทองคำทีละน้อย มีความยืดหยุ่นสูงแต่มีค่าธรรมเนียมพอสมควร กองทุนรวมทองคำเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและการจัดการโดยมืออาชีพ พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี Gold ETF เหมาะกับนักลงทุนที่มีความรู้ตลาดหุ้นและต้องการความยืดหยุ่นสูงด้วยต้นทุนต่ำ ส่วนการเทรดทองคำเหมาะเฉพาะนักลงทุนที่มีประสบการณ์และรับความเสี่ยงได้สูง แต่ให้โอกาสทำกำไรได้มากที่สุด

การตัดสินใจเลือกวิธีการลงทุนทองคำควรพิจารณาจากเป้าหมายการลงทุน ระยะเวลา เงินทุน และระดับความเสี่ยงที่รับได้ การกระจายการลงทุนในหลายวิธีอาจเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยเฉพาะในปี 2025-2026 ที่ตลาดทองคำยังมีปัจจัยบวกจากทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน นักลงทุนควรติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนทองคำ ปี 2026

การลงทุนทองคำแบบไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2026?

กองทุนเหมืองทอง (Gold Mining Fund) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 31% แต่มีความผันผวนสูง ขณะที่ทองคำแท่งและ Gold ETF เหมาะกับนักลงทุนที่เน้นความมั่นคงและถือระยะยาว

เริ่มต้นลงทุนทองคำต้องใช้เงินเท่าไหร่?

สามารถเริ่มต้นออมทองออนไลน์ได้เพียง 100–500 บาทต่อเดือน ส่วนการซื้อทองคำแท่งจริงต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 30,000–40,000 บาทต่อบาททอง

Gold ETF ต่างจากการออมทองอย่างไร?

Gold ETF ซื้อขายได้เหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ มีต้นทุนต่ำ โปร่งใส และสภาพคล่องสูง
ส่วน ออมทอง เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากสะสมทองทีละน้อย แม้มีค่าธรรมเนียมสูงกว่าแต่ใช้งานง่ายและเริ่มได้ทันที

แนวโน้มราคาทองคำปี 2026 เป็นอย่างไร?

ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องจากนโยบายการเงินผ่อนคลาย ความต้องการทองคำจากเอเชีย และการเติบโตของ Digital Gold และ ESG Gold ที่คาดว่าจะขยายตัว 35–40% ต่อปี

 


แหล่งที่มาข้อมูล (Sources)

  • ราคาทองคำและผลตอบแทนในประเทศไทย: สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย
        (https://www.goldtraders.or.th
  • ข้อมูลความต้องการทองคำโลก: World Gold Council Q3 2024 Gold Demand Trends 
    (https://www.gold.org/goldhub/research/gold-demand-trends
  • การคาดการณ์ราคาทองคำ:
    • Goldman Sachs Commodities Research 2025 Outlook
    • UBS Global Wealth Management Gold Forecast 2025
  • ผลตอบแทนกองทุนรวมทองคำ: Morningstar Direct Thailand (https://www.morningstar.co.th
  • ข้อมูล Gold ETF:
  • สถิติการเทรดและโบรกเกอร์: Finance Magnates Intelligence Q3 2024 Report
  • ข้อมูลการออมทองออนไลน์:
  • การคาดการณ์ CBDC: Bank for International Settlements - Central Bank Digital Currency Survey 2024
  • ESG Gold Trends: Responsible Gold Mining Report 2024, World Gold Council
     

เขียนโดย

User profile image

Thanakit Sutto

Finance content writer with a passion for investing, believes that good knowledge empowers smart decisions.

แท็ก:


บทความนี้มีประโยชน์สำหรับคุณหรือไม่?

0

0


บทความที่เกี่ยวข้อง

TrustFinance ใช้คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้