ย้อนกลับไปในปี 2008 โลกได้รู้จักกับแนวคิดของ Bitcoin เป็นครั้งแรก เมื่อบุคคลปริศนานามว่า Satoshi Nakamoto เผยแพร่เอกสารสำคัญชื่อว่า “Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System” ซึ่งนำเสนอระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ต้องมีตัวกลางเช่นธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ แต่หนึ่งในกลไกที่ทำให้ Bitcoin โดดเด่นและแตกต่างจากสกุลเงินดั้งเดิม คือสิ่งที่เรียกว่า Bitcoin Halving กลไกนี้จะลดรางวัลที่นักขุด Bitcoin ได้รับลงครึ่งหนึ่งทุกๆ 210,000 บล็อก หรือประมาณทุก 4 ปี โดยจุดประสงค์หลักคือการควบคุมอุปทานของ Bitcoin ให้มีเพียง 21 ล้าน BTC เพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อและรักษามูลค่าของ Bitcoin ไว้ในระยะยาว ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของ Bitcoin ทั้งในแง่อุปสงค์ อุปทาน ความยากในการขุด และการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด
Bitcoin Halving ก้าวกระโดดครั้งใหม่ของราคา
Bitcoin Halving มีบทบาทสำคัญอย่างมากในประวัติศาสตร์ของคริปโต และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกจากผลกระทบที่มีต่อราคา Bitcoin ในอดีตที่ผ่านมา
- ปี 2012: Halving ครั้งแรก ลดรางวัลจาก 50 BTC เหลือ 25 BTC ส่งผลให้ราคาพุ่งจากประมาณ 12 ดอลลาร์ไปสูงสุดที่ 1,100 ดอลลาร์ในปีถัดมา
- ปี 2016: Halving ครั้งที่สอง ลดเหลือ 12.5 BTC ทำให้ราคาเพิ่มจาก 650 ดอลลาร์ไปทะลุ 20,000 ดอลลาร์ในปี 2017
- ปี 2020: Halving ครั้งที่สาม ลดรางวัลลงเหลือ 6.25 BTC ผลักดันราคา Bitcoin จากประมาณ 8,000 ดอลลาร์ ไปสู่จุดสูงสุดที่ประมาณ 69,000 ดอลลาร์ในปี 2021
Halving ครั้งล่าสุดในปี 2024 ลดรางวัลลงอีกครั้งเหลือเพียง 3.125 BTC และตามมาด้วยการปรับตัวครั้งสำคัญของราคา Bitcoin ที่ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกการเงิน ในปีถัดมา (2025) ราคา Bitcoin พุ่งทะยานไปถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้นักลงทุนและสถาบันการเงินต่างหันมาให้ความสนใจและลงทุนใน Bitcoin มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้ว่าในช่วงแรกตลาดจะไม่ตอบสนองทันที แต่ท้ายที่สุด Halving ปี 2024 ได้กลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตครั้งใหญ่ของ Bitcoin ในปี 2025 สามารถดูการเติบโตของเหรียญคริปโตที่ได้รับอิทธิพลจากการ Halving
ได้ที่ 10 เหรียญคริปโตน่าลงทุนปี 2024 -2025 อัพเดตล่าสุด!
อนาคต Bitcoin Halving ทิศทางใหม่ของเศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับ Bitcoin Halving ครั้งถัดไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2028 นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับตลาดคริปโต เนื่องจากรางวัลการขุดจะลดลงเหลือเพียง 1.5625 BTC ต่อบล็อกเท่านั้น ส่งผลให้ธุรกิจการขุด Bitcoin ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่และต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด แต่อีกด้านหนึ่ง นักลงทุนและนักวิเคราะห์จำนวนมากก็มองว่าการลดอุปทานใหม่นี้จะส่งผลดีต่อราคาของ Bitcoin ในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลการคาดการณ์ราคาอย่าง Stock-to-Flow ที่ชี้ว่า Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งทะยานไปสู่ระดับราคาที่สูงกว่านี้ได้อีกมาก
นอกจากนี้ การที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เริ่มเปิดรับ Bitcoin และการพัฒนาเทคโนโลยีอย่าง Lightning Network ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้ Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกต่อไป ในท้ายที่สุดแล้ว Bitcoin Halving ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามวัฏจักรทุก 4 ปี แต่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจดิจิทัลและส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกการเงินในทุกๆครั้งที่เกิดขึ้น
สรุป
Bitcoin Halving ถือเป็นกลไกสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาดคริปโตและเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลก โดยไม่ใช่เพียงการลดรางวัลสำหรับนักขุดเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในระยะยาว อีกทั้งการยอมรับจากสถาบันการเงินและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ช่วยเสริมให้ Bitcoin ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีอนาคตและเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
Source