Yield Farming ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจของโลกการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือที่เรียกว่า DeFi หลายคนอาจเคยได้ยินว่ามันคือการทำฟาร์มคริปโต หรือปล่อยเหรียญให้ทำงานแทนเรา แต่แท้จริงแล้ว Yield Farming คืออะไร ทำงานอย่างไร และสามารถสร้างรายได้แบบ Passive ได้จริงหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Yield Farming อย่างเป็นระบบ พร้อมตัวอย่างและแนวทางเริ่มต้นที่ชัดเจน
Yield Farming คืออะไร
Yield Farming คือกระบวนการที่ผู้ถือครองคริปโตนำเหรียญของตนไปฝากไว้ในแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ และได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยหรือโทเคนใหม่เป็นสิ่งตอบแทน
หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย มันคล้ายกับการฝากเงินไว้ในธนาคาร แต่เปลี่ยนจากระบบธนาคารแบบรวมศูนย์ มาเป็นระบบแบบไร้ตัวกลาง โดยเงินที่ฝากไว้จะถูกนำไปใช้ในการจับคู่ซื้อขาย หรือเป็นทุนให้ผู้อื่นยืมในรูปแบบของสมาร์ตคอนแทรกต์ ซึ่งเป็นโค้ดอัตโนมัติที่ควบคุมกระบวนการทั้งหมด
Yield Farming ทำงานอย่างไร
เบื้องหลังของ Yield Farming คือพูลสภาพคล่อง หรือกลุ่มของเงินทุนที่ถูกจัดเก็บไว้ในระบบอัตโนมัติ แทนที่จะมีคนกลางมารับฝากหรือควบคุม พูลนี้จะเปิดให้ทุกคนสามารถนำเหรียญเข้ามาฝากและรับผลตอบแทนได้
ผู้ที่เข้าร่วมจะเรียกว่าผู้ให้สภาพคล่อง โดยเมื่อผู้ใช้นำเหรียญมาใส่ในพูล ก็จะได้รับโทเคนแทนสิทธิ์การเป็นเจ้าของส่วนนั้น และสามารถนำโทเคนเหล่านี้ไปวางไว้ในแพลตฟอร์มอื่นเพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติม ซึ่งเรียกว่าการทำฟาร์มแบบซ้อนฟาร์ม
รายได้ที่ได้จาก Yield Farming มักคำนวณเป็นผลตอบแทนรายปี และมักจะเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของตลาด ยิ่งมีคนเข้าร่วมมาก ผลตอบแทนก็อาจลดลง แต่หากพูลขาดสภาพคล่อง ก็อาจมีแรงจูงใจให้เพิ่มผลตอบแทนเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน
ทำไม Yield Farming ถึงได้รับความนิยม
Yield Farming กลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมในโลกคริปโตตั้งแต่ปี 2020 และมีเหตุผลสำคัญหลายประการที่ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจวิธีสร้างรายได้นี้
- สร้างรายได้แบบ Passive
นักลงทุนไม่จำเป็นต้องซื้อขายเหรียญบ่อย เพียงถือเหรียญไว้ในพูลก็สามารถได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
- ผลตอบแทนสูงกว่าระบบดั้งเดิม
Yield Farming หลายแพลตฟอร์มให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคาร โดยเฉพาะในช่วงที่เหรียญหายากหรือมีแคมเปญจูงใจ
- สนับสนุนระบบการเงินแบบกระจายศูนย์
ผู้ที่เข้าร่วม Yield Farming มีส่วนช่วยให้แพลตฟอร์มมีสภาพคล่องเพียงพอ และเปิดโอกาสให้ผู้อื่นสามารถเทรดหรือกู้ยืมได้สะดวก
- สามารถใช้กลยุทธ์ต่อยอด
นักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถนำโทเคนที่ได้ไปใช้ต่อในระบบอื่นเพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีกชั้น เช่น การนำไปวางไว้ในระบบฟาร์มแบบผสม
ตัวอย่าง Yield Farming ที่น่าสนใจ
ในตลาดการเงินแบบกระจายศูนย์ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม Yield Farming ให้เลือกมากมาย แต่ละแห่งมีเหรียญที่รองรับ กลไกการจ่ายผลตอบแทน และระดับความเสี่ยงที่ต่างกัน ตัวอย่างที่เป็นที่นิยมได้แก่
Uniswap เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตแบบไร้ศูนย์กลางที่เปิดให้ผู้ใช้นำเหรียญเข้าร่วมในพูลสภาพคล่อง เช่น คู่เหรียญ ETH กับ USDC ผู้ที่ฝากเหรียญจะได้รับค่าธรรมเนียมจากการเทรดในพูลนั้น
PancakeSwap บนเครือข่าย Binance Smart Chain เป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำและอินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย
Curve Finance เชี่ยวชาญด้านการจับคู่เหรียญที่มีมูลค่าใกล้เคียงกัน เช่น USDC, DAI, และ USDT ทำให้ลดความเสี่ยงจากราคาผันผวน และให้ผลตอบแทนที่มั่นคง
ความเสี่ยงที่ควรระวัง
แม้ Yield Farming จะสร้างรายได้แบบ Passive ได้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเข้าใจให้ชัดเจน
Impermanent Loss คือการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในพูล หากราคาของเหรียญเปลี่ยนแปลงมากเกินไป จะทำให้ผลตอบแทนที่ได้อาจไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการถือเหรียญไว้เฉย ๆ
ความเสี่ยงจากสมาร์ตคอนแทรกต์ เนื่องจากระบบทั้งหมดอยู่ภายใต้โค้ดอัตโนมัติ หากมีข้อผิดพลาดหรือถูกโจมตี ผู้ใช้งานอาจสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมด
ความเสี่ยงจากมูลค่าตลาด มูลค่าของเหรียญที่ได้รับเป็นผลตอบแทน อาจลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลตอบแทนที่คาดไว้ไม่เป็นไปตามเป้า
การหลอกลวงหรือฉ้อโกง เช่น การถอนเงินจากพูลโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเรียกว่าการดึงพรม ผู้ลงทุนจะไม่สามารถเอาทุนคืนได้
วิธีเริ่มต้น Yield Farming อย่างปลอดภัย
เริ่มจากการศึกษาพื้นฐานของการเงินแบบกระจายศูนย์และแพลตฟอร์มที่คุณสนใจ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของทีมพัฒนาและประวัติการให้บริการ
เลือกเหรียญและคู่เหรียญที่คุณรู้จักและเข้าใจ อย่ารีบฟาร์มกับเหรียญที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติโดยไม่รู้ที่มา
ใช้ทุนเริ่มต้นที่คุณสามารถยอมขาดทุนได้ การลงทุนในระบบที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ไม่ควรใช้เงินทั้งหมดที่คุณมี
ติดตามข่าวสารจากแพลตฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ เพราะบางครั้งอาจมีการอัปเดตที่ส่งผลต่อความเสี่ยงหรือผลตอบแทน
สรุป
Yield Farming คือการนำเหรียญคริปโตไปใช้สร้างรายได้แบบ Passive ผ่านการฝากในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ เพื่อรับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยหรือโทเคนที่แจกจ่ายในระบบ กลไกนี้ช่วยให้ระบบมีสภาพคล่อง และเปิดโอกาสให้ผู้ถือเหรียญสามารถนำสินทรัพย์ของตนมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ Yield Farming จะเป็นโอกาสใหม่ที่น่าดึงดูด แต่ก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เข้าใจความเสี่ยง และมีการวางแผนที่รอบคอบ เพราะในโลกคริปโต ไม่มีผลตอบแทนใดที่ปราศจากความเสี่ยงอย่างแท้จริง
หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นที่สนใจ อย่าเพิ่งรีบร้อน ควรเริ่มจากการศึกษาแนวคิดเบื้องต้น ทำความเข้าใจกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ และทดลองใช้งานด้วยจำนวนเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ เท่านี้คุณก็สามารถเริ่มต้นเดินทางสู่โลก Yield Farming ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกย่างก้าวของการลงทุนในโลกดิจิทัล
Source
https://merkle.capital/articles/what-is-yield-farming
https://www.moneybuffalo.in.th/vocabulary/what-is-yield-farming
https://www.coinbase.com/learn/your-crypto/what-is-yield-farming-and-how-does-it-work