ตลาด Forex นอกจากจะเทรดสกุลเงินได้แล้วก็ยังสามารถเลือกลงทุนในตลาดหุ้นได้อีกด้วย ซึ่งถ้าหากคุณได้ลงทุนในหุ้นบางตัวแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือการอ่านงบดุล ทักษะนี้จะช่วยคุณลดความเสี่ยงจากการเทรดหุ้น และ ทำให้ผู้อ่านรู้วิธีค้นหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ดังนั้นสำหรับนักเทรดหุ้นการอ่านงบจึงเป็นทักษะที่ควรมี บทความต่อไปนี้จะอธิบายถึงการอ่าน “งบดุล” เพื่อนำไปใช้ในการลงทุน
ส่วนประกอบที่สำคัญของ “งบดุล”
สามารถหาอ่านงบดุลของบริษัทชื่อดังได้ที่ไหน?
ปัจจุบันเราสามารถหางบการเงินของบริษัทอ่านได้ไม่ยาก ซึ่งจะขอแนะนำเว็บไซต์ Investing.com แพลตฟอร์มการลงทุนที่ได้รับความนิยมในระดับโลก ซึ่งภายในเว็บไซต์สามารถใช้หาอ่านงบดุลได้ไม่ยาก ด้วยวิธีดังนี้
- พิมพ์ชื่อบริษัทที่ต้องการค้นหาข้อมูลในช่อง Search แล้วกดเลือก
- จากนั้นระบบจะพาคุณเข้ามายังหน้าต่างข้อมูลของบริษัทที่คุณเลือก ให้คุณกดเลือกที่งบดุล
- สุดท้ายก็จะพบกับข้อมูลตัวเลขงบดุลของบริษัทนั้นให้เทรดเดอร์ได้วิเคราะห์
ตัวอย่างวิธีการอ่านงบดุล “หามูลค่าที่แท้จริง”
งบดุลของ Google ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2023 มีสินทรัพย์อยู่ที่ 402,392 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปี 2022 ได้ถูกบันทึกไว้ว่ามีสินทรัพย์อยู่ที่ 365,264 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่ามูลค่าสินทรัพย์ของ Google เพิ่มขึ้น 37,128
แต่กลับกันในส่วนของ “หนี้สิน” ในปี 2023 ที่มีขนาดเพิ่มขึ้น 9,893 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากเทียบกับปี 2022
แต่ถึงแม้หนี้สินจะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ส่งผลในแง่ลบอย่างร้ายแรงเสมอไป เราสามารถเข้าไปดูที่สินทรัพย์หมุนเวียนกับหนี้สินหมุนเวียน เพื่อตรวจสอบความสามารถชำระหนี้ระยะสั้นโดยใช้สูตรนี้
สูตรการวัดผลนี้นอกจากจะใช้ตรวจสอบความสามารถชำระหนี้ในระยะสั้นได้แล้ว ก็ใช้ทดสอบระดับความเสี่ยงทางการเงินในระยะสั้นได้เช่นกัน ซึ่งอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนควรมากกว่า 1 เพื่อบ่งบอกว่าสามารถชำระหนี้ได้ดี
และเมื่อคำนวณออกมาแล้วจะพบว่า Google มีอัตราส่วนทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 2.1 หมายความว่าบริษัทนี้มีความสามารถชำระหนี้จึงน่าลงทุน
งบดุลแบบไหนถึงจะน่าลงทุนในตลาด Forex?
ผมจะขอแบ่งงบดุลออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ “งบดุลที่แข็งแกร่ง” และ “งบดุลที่อ่อนแอ” เพื่อทำให้ผู้อ่านที่เป็นเทรดเดอร์มือใหม่ได้ทำความเข้าใจได้ง่าย
งบดุลที่แข็งแกร่ง
- มีสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวนมาก : การมีสินทรัพย์ที่พร้อมลงทุนตลอดเวลาช่วยให้บริษัทพร้อมเติบโตก้าวหน้า พร้อมชำระหนี้สิน อีกทั้งช่วยแสดงความพร้อมชำระเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อีกด้วย
- หนี้สินไม่หมุนเวียนต่ำ : หนี้คือสิ่งที่กู้มาแล้วต้องชำระให้ครบตามจำนวนและเวลาที่กำหนด ดังนั้นการมีหนี้สินต่ำก็จะแสดงภาพลักษณ์ที่ดีน่าลงทุน
- มีสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน : ซึ่งก็คือสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือ ชื่อทางการค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าแบรนด์ของบริษัทมีความแข็งแกร่ง
งบดุลที่อ่อนแอ
- กำไรสะสมติดลบ : เป็นสิ่งที่นักอ่านงบหลายคนมักจะเรียกกันว่า “ขาดดุล” เพราะกำไรสะสมมักจะถูกใช้เป็นเงินทุนสำรองฉุกเฉิน
- เงินสด / ทุนติดลบ : เป็นสัญญาณที่ไม่ดี นักลงทุนไม่ควรเลือก
- อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนต่ำ : จากตัวอย่างด้านบนจะทราบได้ว่าอัตราส่วนควรมากกว่า 1 เพื่อจะรู้ได้ว่าบริษัทนี้มีความสามารถในการชำระหนี้สูงหรือต่ำ ถ้าหากตัวเลขมีจำนวนต่ำจะไม่ควรลงทุน
สรุป
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการอ่านงบดุลฉบับเบื้องต้นเพื่อช่วยให้นักลงทุนหาหุ้นน่าลงทุนแบบง่ายได้ ว่าหุ้นตัวไหนมีศักยภาพน่าลงทุน ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนต้องจำให้ขึ้นใจเกี่ยวกับการอ่านงบการเงินทุกครั้งคือส่วนประกอบ 3 อย่างนี้ได้แก่
- สินทรัพย์
- หนี้สิน
- ส่วนของผู้ถือหุ้น
โดยนักลงทุนสามารถหาอ่านงบการเงินได้จากเว็บไซต์ Investing.com เพื่อทำการวิเคราะห์หุ้น นอกจากนี้โปรดอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยงสูง ต้องศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนให้ละเอียดถี่ถ้วน
แหล่งอ้างอิง
https://fbs.co.th/analytics/tips/how-to-read-a-balance-sheet-to-trade-stocks-33803
https://www.set.or.th/th/about/mediacenter/insights/article/255-financial-statements
https://mtrading.com/th/education/articles/forex-basics/brief-intro-to-reading-forex-charts-th
