ในโลกของการเทรด Forex ที่มีการแข่งขันสูง การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์การเทรดเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่าง Pepperstone และ IC Markets สองโบรกเกอร์ชั้นนำจากออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนไทย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนดีกว่ากัน
ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแลของโบรกเกอร์
Pepperstone
จดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, FCA UK, CySEC, SCB, CMA, BaFin, DFSA
ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010 มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรม Forex
มีการแยกเก็บเงินทุนลูกค้าไว้ที่ธนาคารชั้นนำ เช่น National Australia Bank, Barclays Bank
IC Markets
จดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, FCA UK, CySEC, FSA
เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007 มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
แยกจัดเก็บเงินทุนลูกค้าไว้ที่ธนาคารชั้นนำระดับโลก เช่น NAB, Westpac
ต้นทุนการเทรด: สเปรด คอมมิชชั่น และสวอป
Pepperstone
Razor Account มี Spread เริ่มต้น 0 pip, Commission $3.5/lot, ไม่มี Commission สำหรับคู่สกุลเงิน XAUUSD
Standard Account ไม่มี Commission, Spread เริ่มต้น 1 pip
มีการคิด Swap ทุกประเภทบัญชี
IC Markets
Raw Spread Account มี Spread เริ่มต้น 0 pip, Commission $7/lot (ครบรอบ)
Standard Account ไม่มี Commission, Spread เริ่มต้น 1 pip
มีการคิด Swap ทุกประเภทบัญชี
ข้อเสนอ โปรโมชั่น และการฝากถอน
Pepperstone
ฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้รวดเร็ว ฝากทันที ถอนภายใน 24 ชม.
รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น QR code, Internet Banking, Credit card, E-wallet, Crypto
มีโปรแกรม Active Trader ให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Volume สูง เช่น ค่าธรรมเนียมพิเศษ, ชำระเงินรวดเร็ว
โปรแกรมแนะนำเพื่อนรับเงินสดสูงสุด $1,000 หรือฟรีค่า Commission 20 ออเดอร์
IC Markets
ฝากถอนผ่านธนาคารไทยรวดเร็ว ฝากทันที ถอนวันเดียวกันหากทำรายการก่อน 12:00 (จันทร์-ศุกร์)
รองรับการชำระเงินหลากหลาย เช่น Visa, Mastercard, Skrill, Neteller, FasaPay, Crypto
ไม่มีโปรโมชั่นพิเศษ มุ่งเน้นที่ต้นทุนการเทรดที่ต่ำเป็นหลัก
เครื่องมือการเทรดและแพลตฟอร์ม
Pepperstone
รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยม MT4, MT5, cTrader, TradingView บนทุกอุปกรณ์
มีแพลตฟอร์มของตัวเอง PepperstoneTrading Platform ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม
มี Trading App บนมือถือทั้ง iOS และ Android ใช้ฟีเจอร์ One-click Trading ซื้อขายง่าย ไม่ต้อง Login บ่อยๆ
รองรับ Social Trading ผ่านหลายโปรแกรม เช่น Myfxbook, DupliTrade, MetaTrader Signal
IC Markets
รองรับแพลตฟอร์มชั้นนำ MT4, MT5, cTrader ผ่านทาง WebTrader, แอพมือถือ, PC
มีแพลตฟอร์มเทรดบน TradingView ที่ถูกพัฒนาเฉพาะสำหรับ IC Markets
มี Trading App บน iOS และ Android ใช้งานง่าย ตอบสนองไว
การให้บริการและดูแลลูกค้า
Pepperstone
มีฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย ให้บริการทาง Live Chat วันจันทร์-ศุกร์ 9.00-21.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น.
นอกเวลาสามารถติดต่อ Live Chat ภาษาอังกฤษได้ 24 ชั่วโมง
ให้การวิเคราะห์ตลาดรายวัน มีบทความความรู้ให้ศึกษาฟรี
IC Markets
มีทีมบริการลูกค้าภาษาไทย ให้บริการทางโทรศัพท์ และ Live Chat 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์
มีบทความความรู้ วิเคราะห์กลยุทธ์ วิเคราะห์ตลาดรายวันแบบละเอียด
ตารางเปรียบเทียบระหว่างสองโบรกเกอร์
บทสรุป
การเลือกระหว่าง Pepperstone หรือ IC Markets ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการเทรดของแต่ละคน หากเน้นเรื่อง Spread ต่ำ เทรด Lot ขนาดใหญ่ หรือต้องการทำ Social Trading Pepperstone น่าจะเหมาะมากกว่า
ส่วนถ้าให้ความสำคัญกับค่า Commission ต่ำ ชอบใช้แพลตฟอร์ม TradingView หรือต้องการบริการลูกค้าแบบ 24 ชม. ช่วงวันทำการ IC Markets อาจจะใช่สำหรับคุณ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ การจัดการเงินทุน ความเร็วในการดำเนินการฝากถอน ทั้งสองโบรกเกอร์ถือว่าทำได้ดีและอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเทรดเดอร์เอง ต้องศึกษาหาความรู้ วางแผนการเทรด บริหารความเสี่ยง และเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับสไตล์ของตน แล้วจะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืนไม่ว่าจะเลือกโบรกเกอร์ไหนก็ตาม
แหล่งอ้างอิง