trustfinance-logo
TrustFinance

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex Pepperstone vs IC Markets - เลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนดี

User profile image

TrustFinance

Thg 01 30, 2025

465

|

6 min read


Blog image

ในโลกของการเทรด Forex ที่มีการแข่งขันสูง การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์การเทรดเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่าง Pepperstone และ IC Markets สองโบรกเกอร์ชั้นนำจากออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนไทย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนดีกว่ากัน

ความน่าเชื่อถือและการกำกับดูแลของโบรกเกอร์

Pepperstone

  • จดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, FCA UK, CySEC, SCB, CMA, BaFin, DFSA

  • ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2010 มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรม Forex

  • มีการแยกเก็บเงินทุนลูกค้าไว้ที่ธนาคารชั้นนำ เช่น National Australia Bank, Barclays Bank

IC Markets

  • จดทะเบียนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC, FCA UK, CySEC, FSA

  • เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007 มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

  • แยกจัดเก็บเงินทุนลูกค้าไว้ที่ธนาคารชั้นนำระดับโลก เช่น NAB, Westpac

 

ทั้ง Pepperstone และ IC Markets ต่างก็เป็นโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง โดยมีการแยกจัดเก็บเงินทุนของลูกค้าอย่างปลอดภัย จึงมั่นใจได้ในด้านความน่าเชื่อถือและความมั่นคงทางการเงินของทั้งสองโบรกเกอร์

 

ต้นทุนการเทรด: สเปรด คอมมิชชั่น และสวอป

Pepperstone

  • Razor Account มี Spread เริ่มต้น 0 pip, Commission $3.5/lot, ไม่มี Commission สำหรับคู่สกุลเงิน XAUUSD

  • Standard Account ไม่มี Commission, Spread เริ่มต้น 1 pip

  • มีการคิด Swap ทุกประเภทบัญชี

IC Markets

  • Raw Spread Account มี Spread เริ่มต้น 0 pip, Commission $7/lot (ครบรอบ)

  • Standard Account ไม่มี Commission, Spread เริ่มต้น 1 pip

  • มีการคิด Swap ทุกประเภทบัญชี

 

โดยรวมแล้วต้นทุนการเทรดของ Pepperstone ดูจะถูกกว่า IC Markets อยู่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชี Razor ที่มี Spread เริ่มต้นเพียง 0 pip และไม่มีค่า Commission ในการเทรดทองคำ ส่วน IC Markets แม้ Spread จะเริ่มที่ 0 แต่ Commission จะสูงกว่าถึง 2 เท่า

 

ข้อเสนอ โปรโมชั่น และการฝากถอน

Pepperstone

  • ฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้รวดเร็ว ฝากทันที ถอนภายใน 24 ชม.

  • รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง เช่น QR code, Internet Banking, Credit card, E-wallet, Crypto

  • มีโปรแกรม Active Trader ให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Volume สูง เช่น ค่าธรรมเนียมพิเศษ, ชำระเงินรวดเร็ว

  • โปรแกรมแนะนำเพื่อนรับเงินสดสูงสุด $1,000 หรือฟรีค่า Commission 20 ออเดอร์

IC Markets

  • ฝากถอนผ่านธนาคารไทยรวดเร็ว ฝากทันที ถอนวันเดียวกันหากทำรายการก่อน 12:00 (จันทร์-ศุกร์)

  • รองรับการชำระเงินหลากหลาย เช่น Visa, Mastercard, Skrill, Neteller, FasaPay, Crypto

  • ไม่มีโปรโมชั่นพิเศษ มุ่งเน้นที่ต้นทุนการเทรดที่ต่ำเป็นหลัก

 

ทั้งสองโบรกเกอร์มีความสะดวกรวดเร็วในการฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทย และรองรับช่องทางการชำระเงินที่ครอบคลุม แต่ Pepperstone มีข้อได้เปรียบที่มีโปรแกรมและโปรโมชั่นน่าสนใจมากกว่าทั้งโปรแกรมลูกค้า Volume สูง และโปรแกรมแนะนำเพื่อน ในขณะที่ IC Markets ไม่ค่อยมีโปรโมชั่นพิเศษ แต่ชดเชยด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า

 

เครื่องมือการเทรดและแพลตฟอร์ม

Pepperstone

  • รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยม MT4, MT5, cTrader, TradingView บนทุกอุปกรณ์

  • มีแพลตฟอร์มของตัวเอง PepperstoneTrading Platform ใช้งานง่าย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม

  • มี Trading App บนมือถือทั้ง iOS และ Android ใช้ฟีเจอร์ One-click Trading ซื้อขายง่าย ไม่ต้อง Login บ่อยๆ

  • รองรับ Social Trading ผ่านหลายโปรแกรม เช่น Myfxbook, DupliTrade, MetaTrader Signal

IC Markets

  • รองรับแพลตฟอร์มชั้นนำ MT4, MT5, cTrader ผ่านทาง WebTrader, แอพมือถือ, PC

  • มีแพลตฟอร์มเทรดบน TradingView ที่ถูกพัฒนาเฉพาะสำหรับ IC Markets

  • มี Trading App บน iOS และ Android ใช้งานง่าย ตอบสนองไว

 

ทั้ง Pepperstone และ IC Markets ต่างก็รองรับแพลตฟอร์มการเทรดหลักๆอย่างครบถ้วน แต่แต่ละโบรกเกอร์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย Pepperstone โดดเด่นที่ Social Trading ผ่านพาร์ทเนอร์หลายราย ส่วน IC Markets มีแพลตฟอร์มเทรดบน TradingView เป็นของตนเอง ซึ่งถือว่าค่อนข้างไม่ธรรมดา แต่โดยรวมแล้วก็เรียกได้ว่าทัดเทียมกัน

 

การให้บริการและดูแลลูกค้า

Pepperstone

  • มีฝ่ายบริการลูกค้าภาษาไทย ให้บริการทาง Live Chat วันจันทร์-ศุกร์ 9.00-21.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 9.00-18.00 น.

  • นอกเวลาสามารถติดต่อ Live Chat ภาษาอังกฤษได้ 24 ชั่วโมง

  • ให้การวิเคราะห์ตลาดรายวัน มีบทความความรู้ให้ศึกษาฟรี

IC Markets

  • มีทีมบริการลูกค้าภาษาไทย ให้บริการทางโทรศัพท์ และ Live Chat 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์

  • มีบทความความรู้ วิเคราะห์กลยุทธ์ วิเคราะห์ตลาดรายวันแบบละเอียด

 

ทั้ง Pepperstone และ IC Markets มีการบริการลูกค้าภาษาไทยที่มีคุณภาพ ตอบสนองได้รวดเร็ว ถือว่าค่อนข้างคล้ายกัน แต่อาจมีข้อแตกต่างเล็กน้อย โดย IC Markets ให้บริการแบบ 24 ชม. เฉพาะวันทำการ ส่วน Pepperstone ให้บริการเพิ่มเติมในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยแต่เป็นช่วงเวลาที่สั้นกว่า ซึ่งหากพิจารณาตามเวลาเปิดปิดของตลาด Forex โดยรวมแล้ว ถือว่าไม่ค่อยมีผลต่อการบริการมากนัก

 

ตารางเปรียบเทียบระหว่างสองโบรกเกอร์

หัวข้อ

Pepperstone

IC Markets

จดทะเบียนกับ

ASIC, FCA, CySEC, SCB, CMA, BaFin, DFSA

ASIC, FCA, CySEC, FSA

ต้นทุนการเทรด

Razor Spread เริ่มต้น 0 pip + Commission $3.5/lot, ไม่มี Commission XAUUSD

Raw Spread เริ่มต้น 0 pip + Commission $7/lot

แพลตฟอร์มการเทรด

MT4, MT5, cTrader, TradingView, แพลตฟอร์มเฉพาะ, Trading App

MT4, MT5, cTrader, TradingView, Trading App

Social Trading

รองรับผ่านพาร์ทเนอร์หลายราย เช่น Myfxbook, DupliTrade

ไม่มีบริการโดยตรง

การฝากถอนเงิน

ฝากถอนผ่านธนาคารไทยรวดเร็ว รองรับช่องทางชำระเงินหลากหลาย

ฝากถอนรวดเร็ว รองรับวิธีการชำระเงินที่ครอบคลุม

โปรโมชั่น

มีโปรแกรมสำหรับลูกค้า Volume สูง และโปรแกรมแนะนำเพื่อน

ไม่ค่อยมีโปรโมชั่นพิเศษ เน้นต้นทุนต่ำเป็นหลัก

บริการลูกค้า

มี Live Chat ภาษาไทย จ.-ศ. 9:00-21:00, ส.-อา. 9:00-18:00

มี Live Chat ภาษาไทย 24 ชม. เฉพาะวันทำการ (จ.-ศ.)

บทสรุป

การเลือกระหว่าง Pepperstone หรือ IC Markets ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการเทรดของแต่ละคน หากเน้นเรื่อง Spread ต่ำ เทรด Lot ขนาดใหญ่ หรือต้องการทำ Social Trading Pepperstone น่าจะเหมาะมากกว่า

ส่วนถ้าให้ความสำคัญกับค่า Commission ต่ำ ชอบใช้แพลตฟอร์ม TradingView หรือต้องการบริการลูกค้าแบบ 24 ชม. ช่วงวันทำการ IC Markets อาจจะใช่สำหรับคุณ

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ การจัดการเงินทุน ความเร็วในการดำเนินการฝากถอน ทั้งสองโบรกเกอร์ถือว่าทำได้ดีและอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเทรดเดอร์เอง ต้องศึกษาหาความรู้ วางแผนการเทรด บริหารความเสี่ยง และเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับสไตล์ของตน แล้วจะสามารถทำกำไรได้อย่างยั่งยืนไม่ว่าจะเลือกโบรกเกอร์ไหนก็ตาม


แหล่งอ้างอิง



 

Written by

User profile image

TrustFinance

Tags:


Is this article helpful for you?

0

0


Related Articles

TrustFinance use cookie for analytics to improve your experience. Check all the information about ourCookies policy