trustfinance-logo
TrustFinance

วิธีเลือกโบรกเกอร์ forex ให้เหมาะกับสไตล์การลงทุน

User profile image

TrustFinance Research Team

Thg 01 21, 2025

63

|

6 min read


Blog image

            สำหรับเทรดเดอร์แล้วการเลือกโบรกเกอร์ Forex นับเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญ หากเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์หรือต้นทุนก็อาจเกิดข้อผิดพลาดในการเทรดได้ ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการเลือกโบรกเกอร์ให้ตรงกับสไตล์การลงทุนของเทรดเดอร์โดยเฉพาะ

 

(ภาพที่มา : https://www.mitrade.com/th/insights/forex/basics/what-is-forex-broker)

โบรกเกอร์ Forex คืออะไร?

          โบรกเกอร์ Forex คือผู้ให้บริการที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างนักลงทุนและตลาดการเงิน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการซื้อขายสกุลเงินและสินทรัพย์อื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มการเทรด โบรกเกอร์จะทำหน้าที่ดำเนินการคำสั่งซื้อขายตามที่นักลงทุนต้องการ พร้อมทั้งเสนอเครื่องมือวิเคราะห์ทางการเงินเพื่อช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของโบรกเกอร์

           โบรกเกอร์แต่ละรายมีจุดเด่นและบริการที่แตกต่างกันไป บางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า บางรายอาจเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น โบนัสเงินฝาก หรือเสนอแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือการเทรดที่ทันสมัย เช่น ระบบวิเคราะห์อัตโนมัติหรือเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง

           เมื่อคุณเลือกโบรกเกอร์ Forex สิ่งสำคัญคือการเปรียบเทียบปัจจัยหลาย ๆ ด้าน เช่น ค่าธรรมเนียม ความเร็วในการดำเนินการ การสนับสนุนลูกค้า รวมถึงความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ ซึ่งเราจะกล่าวถึงในย่อหน้าถัดไป

เปรียบเทียบโบรกเกอร์

เปรียบเทียบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเปรียบเทียบโบรกเกอร์

             การคัดเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดจำเป็นต้องสังเกตจากข้อมูลปัจจัยเพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งการพิจารณาโบรกเกอร์ไม่อาจใช้ข้อมูลเพียงอย่างเดียวมาตัดสินได้ แต่ต้องพินิจจากข้อมูลหลายส่วนร่วมกันเพื่อเปรียบเทียบหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยข้อมูลสำคัญที่ต้องนำมาใช้เปรียบเทียบมีด้วยกัน ดังนี้

 

  1. มีใบอนุญาตกำกับดูแลจากหน่วยงานสากล

 

ใบอนุญาตและการกำกับดูแลเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเพราะการเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ระดับสากล จะช่วยหลีกเลี่ยงการถูกฉ้อโกงจากโบรกเกอร์เถื่อนหรือผู้ไม่หวังดี ใบอนุญาตจากหน่วยงานสากลจะช่วยรองรับความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี หากโบรกเกอร์ทุจริตระหว่างดำเนินงานก็สามารถแจ้งให้ทางหน่วยงานรับรองมาตรวจสอบได้

ใบอนุญาตโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์

เช็กใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex

 

  1. ประเภทบัญชีที่ซัพพอร์ต

 

โบรกเกอร์แต่ละแห่งอาจมีชื่อเรียกที่ต่างกันแต่รายละเอียดมักจะคล้ายกัน สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่จะเสนอบัญชีประเภท Cent ที่มีหน่วยเทรดเล็กที่สุดซึ่งจะช่วยลดโอกาสล้างพอร์ตและความเสี่ยงขาดทุนจำนวนมาก แต่กลับกันเมื่อได้รับกำไรก็จะได้จำนวนเล็กน้อยเช่นกัน

 

  1. ค่าธรรมเนียมที่ดีจะช่วยประหยัดต้นทุน
     

ค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ Forex ไม่ว่าจะเป็นค่าสเปรด ค่าสวอป หรือค่าคอมมิชชันก็ตามล้วนมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ซึ่งเทรดเดอร์ต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมในข้อกำหนดของโบรกเกอร์เพื่อนำมาใช้เปรียบเทียบ 
 

Wide-Broker-Spread.png

(ภาพที่มา : https://www.babypips.com/learn/forex/what-is-a-spread-in-forex-trading)

 

  1. แพลตฟอร์มการซื้อขาย

 

โบรกเกอร์ที่มีทางเลือกให้แก่ลูกค้าย่อมสร้างความได้เปรียบของโอกาสการทำกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยความถนัดของบุคคลล้วนแตกต่างกันการใช้เครื่องมือต่าง ๆ จึงมีผลต่อการเทรด โดยแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์นิยมใช้ เช่น MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือ TradingView
 

(ภาพที่มา : https://www.oanda.com/bvi-th/cfds/platforms/)

 

  1. เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ตลาด Forex
     

บริการเพิ่มเติมจากโบรกเกอร์ที่เทรดเดอร์นำไปใช้ประโยชน์เพื่อก่อกำไรได้ หมายความว่าโบรกเกอร์ที่มีเครื่องมือหลายชนิดและอย่างที่คุณต้องการจะช่วยให้การเทรดนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเครื่องมือวิเคราะห์มีมากมายหลายชนิด เช่น เครื่องมือคำนวณมูลค่าต่าง ๆ เครื่องมือวัดแนวโน้มตลาด แหล่งการเรียนรู้ หรือ ข่าวสาร เป็นต้น
 

forex tool

 

  1. บริการดูแลลูกค้า

 

ต้องตรวจสอบถึงวิธีติดต่อ Support Chat ว่าสามารถติดต่อได้สะดวกและรวดเร็วหรือไม่ เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นการติดต่อที่ศูนย์บริการลูกค้าย่อมเป็นสิ่งที่คำนึงถึงอันดับแรก รวมถึงต้องคอยตรวจสอบรีวิวฝ่ายสนับสนุนลูกค้าจากการใช้บริการของโบรกเกอร์อยู่เสมอ

 

  1. เงื่อนไขการซื้อขาย

 

เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์หลายคนมักจะมองข้ามที่สามารถส่งผลกระทบต่อพอร์ตได้ โดยโบรกเกอร์แต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขสำคัญบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป เช่น ข้อกำหนดขั้นต่ำการฝากเงิน, ขนาดการซื้อขายต่ำสุดและสูงสุด หรือ นโยบายการถอนเงิน เป็นต้น

 

  1. รีวิวและประวัติของโบรกเกอร์

 

การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและประวัติที่ผ่านมาของโบรกเกอร์จะช่วยตัดสินใจได้เป็นอย่างดี เพื่อทราบถึงความน่าเชื่อถือก่อนเริ่มใช้งาน นักลงทุนสามารถอ่านรีวิวโบรกเกอร์ ได้จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ หรือบนแพลตฟอร์ม TrustFinance แพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลและรีวิวของบริษัททางการเงิน กว่า 180,000 บริษัท

รีวิวบน TrustFinance
รีวิวจากผู้ใช้งาน

ค้นหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนยังไง?

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างของนักลงทุน A เปรียบเทียบโบรกเกอร์เพื่อเลือกเปิดบัญชีให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของตนเอง
 

ข้อมูลนักลงทุน A
 

นักลงทุน A

ประสบการณ์ลงทุน Forex :

1 เดือน

ความสามารถรับความเสี่ยง :

ต่ำ

ฐานะการเงิน :

ปานกลาง

ความรู้การลงทุน :

ต่ำ

วัตถุประสงค์การลงทุน :

เน้นโอกาสได้รับกำไร แต่อาจเสี่ยงเงินทุนได้บ้าง

 

ข้อมูลโบรกเกอร์ T และ J (นามสมมติ)
 

 

โบรกเกอร์ T

โบรกเกอร์ J

ใบอนุญาตรับรอง :

มี

มี

ประเภทบัญชี :

Classic, Cent และ ECN

Classic, Cent, Micro และ ECN

ค่าธรรมเนียม :

ค่าคอมมิชชันเริ่มต้น = $0

ค่าสวอป = ไม่มี

ค่าสเปรด = เริ่มต้น 0.7 pip

ค่าคอมมิชชันเริ่มต้น = $0.4 - $2

ค่าสวอป = ไม่แน่นอน

ค่าสเปรด = เริ่มต้น 0.0 pip

แพลตฟอร์มการเทรด : 

MetaTrader 4 MetaTrader 5 และ CTrader

MetaTrader 4 MetaTrader 5 และ TradingView

เครื่องมือทางการเงิน : 

  • แหล่งการเรียนรู้

  • ข่าวสาร

  • บทวิเคราะห์

  • ปฏิทินเศรษฐกิจ

  • บทวิเคราะห์

  • ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริการดูแลลูกค้า :

ให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์

เวลา 09.00 - 18.00 น.

ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

เงื่อนไขซื้อขายเพิ่มเติม :

  • ฝากถอนขั้นต่ำ $10

  • ปริมาณการเทรดสูงสุด 50 Lots

  • ฝากถอนขั้นต่ำ $15

  • ปริมาณการเทรดสูงสุด 200 Lots

รีวิวจากผู้ใช้งาน : 

แง่บวกจำนวนมาก

แง่บวกจำนวนมาก

 

วิเคราะห์การเลือกโบรกเกอร์

 

เมื่อสังเกตเห็นข้อมูลและพิจารณาทั้งหมดแล้วจะพบว่านักลงทุน A ควรเลือกโบรกเกอร์ T ด้วยเหตุผลดังนี้

 

  1. นักลงทุน A มีประสบการณ์การลงทุนเพียง 1 เดือนและความรู้ด้าน Forex ที่ยังน้อยทำให้การที่โบรกเกอร์มีแหล่งการเรียนรู้จะช่วยมอบทักษะความรู้ได้เป็นอย่างดี

  2. นักลงทุน A มีความสามารถรับความเสี่ยงต่ำ การที่โบรกเกอร์มีบัญชี Cent จะช่วยจัดการลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี

  3. ค่าธรรมเนียมโดยรวมโบรกเกอร์ T จะได้เปรียบกว่าโบรกเกอร์ J

  4. ถึงแม้ฝ่ายบริการลูกค้าของโบรกเกอร์ T จะไม่ได้เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงก็ไม่ได้มีผลมากนัก เนื่องด้วยตลาด Forex จะเปิดให้บริการแค่วันจันทร์ - วันศุกร์ตรงกับเวลาเปิดปิดของโบรกเกอร์ T

  5. วัตถุประสงค์การลงทุนของนักลงทุน A ไม่มีความสัมพันธ์กับปริมาณการเทรดที่มาก


     

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นจึงทำให้นักลงทุน A ควรเลือกโบรกเกอร์ T ด้วยปัจจัยที่เกิดขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตามโปรดทราบว่าการลงทุนมีความเสี่ยงควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวการเทรด Forex ให้ละเอียดถี่ถ้วน
 

สรุป


การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน เนื่องจากโบรกเกอร์เป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้นำเสนอวิธีการเปรียบเทียบโบรกเกอร์โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ใบอนุญาต ค่าธรรมเนียม แพลตฟอร์มการเทรด และบริการสนับสนุนลูกค้า การเลือกโบรกเกอร์ที่ตรงกับสไตล์การลงทุนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรด
 

 


 

แหล่งอ้างอิง



 

เขียนโดย

User profile image

TrustFinance Research Team

Official TrustFinance research and editorial team, sharing insights, analysis, and best practices to help financial companies and traders build transparency, credibility, and growth.

แท็ก:


บทความนี้มีประโยชน์สำหรับคุณหรือไม่?

0

0


บทความที่เกี่ยวข้อง

TrustFinance ใช้คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้