trustfinance-logo
TrustFinance

ค่าธรรมเนียมเทรด Forex มีอะไรบ้างและคำนวณอย่างไร? - ค่าใช้จ่ายที่เทรดเดอร์มือใหม่ต้องรู้!

User profile image

TrustFinance Research Team

Thg 01 13, 2025

35

|

2 min read


Blog image

          การเทรด Forex นั้นมาพร้อมกับต้นทุนสำคัญที่มักจะถูกมองข้าม นั่นคือ "ค่าธรรมเนียม" ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ความจริงแล้วค่าธรรมเนียมสามารถสะสมและส่งผลกระทบต่อกำไรอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะอธิบายประเภทค่าธรรมเนียมที่คุณควรรู้จัก วิธีการคำนวณ และเคล็ดลับในการลดต้นทุน เพื่อช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค่าธรรมเนียม forex

 

ค่าธรรมเนียม Forex คืออะไร? ทำไมถึงต้องจ่าย?

การเทรด Forex จะมีผู้ให้บริการเป็นตัวกลางระหว่างเทรดเดอร์และตลาดการเงินก็คือ “โบรกเกอร์” โดยโบรกเกอร์จะได้รับรายได้จาก “ค่าธรรมเนียม (Brokerage fees)” ซึ่งเป็นค่าบริการในการส่งคำสั่งซื้อขายในฐานะพ่อค้าคนกลางที่ช่วยอำนวยความสะดวก โบรกเกอร์แต่ละแห่งมีการคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชีที่เลือกใช้ และการแข่งขันที่สูงมากขึ้นของโบรกเกอร์เอง
 

ในอดีตค่าธรรมเนียมจากการเทรดค่อนข้างสูงเพราะต้องดำเนินการซื้อขายด้วยเอกสารผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้เกิดการล่าช้า อีกทั้งผู้ให้บริการที่มีจำนวนน้อยจึงไม่แปลกที่ค่าธรรมเนียมจะสูง แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตทำให้การดำเนินการง่ายขึ้นและมีต้นทุนต่ำลง อย่างไรก็ตาม การรู้จักค่าธรรมเนียมต่างๆ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น
 

ประเภทของค่าธรรมเนียม Forex มีอะไรบ้าง?

  1. ค่าสเปรด (Spread)

    ค่าสเปรด คือ ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของคู่สกุลเงิน ค่าสเปรดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพคล่องของตลาด โดยโบรกเกอร์มักจะใช้วิธีการนี้ในการสร้างรายได้ ซึ่งแพลตฟอร์มการเทรดส่วนใหญ่จะมีราคาซื้อและขายปรากฏที่หน้า Market Watch
     

(ภาพที่มา : https://admiralmarkets.sc/th/education/articles/trading-instruments/brokerage-fees-explained)

 

วิธีคำนวณค่าสเปรด (Spread)
 

สมมติว่าค่าสเปรดของ EURUSD อยู่ที่ 1.1200/1.1205 หมายความว่า

ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายสูงสุด 1.1200 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ 1 ยูโร

ผู้ขายยินดีที่จะขาย 1 ยูโรในราคา 1.205 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายอยู่ที่ 5 pip ( 1.1205 - 1.1200 = 0.0005)

ส่วนต่าง 5 pip นี้คือค่าสเปรดของคู่เงิน EURUSD
 

***Tip***

ราคาซื้อ (Bid) คือราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อยินดีจะจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์หนึ่งหน่วย

ราคาขาย (Ask) คือราคาต่ำสุดที่ผู้ขายยินดีจะขายสินทรัพย์หนึ่งหน่วย

 

  1. ค่าคอมมิชชัน (Commission)

    ค่าคอมมิชชัน คือ ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บจากบริการที่แตกต่างกัน เช่น โบรกเกอร์ A ให้บริการประเภทบัญชีแบบ ECN (เป็นบัญชีที่เทรดเดอร์สามารถซื้อขายจากตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรงโดยมีโบรกเกอร์เป็นผู้อำนวยความสะดวก) โดยจะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมจากการให้บริการ เป็นต้น ซึ่งค่าคอมมิชชันแต่ละโบรกเกอร์จะแตกต่างกันแล้วแต่กำหนด

  2. ค่าสวอป (Swap)

    ค่าสวอป (Swap) คือ ค่าธรรมเนียมสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือสถานะซื้อขายข้ามคืน เมื่อเทรดเดอร์เปิดออเดอร์แล้วผ่านไปอีกวันหนึ่งเงินทุนของเทรดเดอร์จะถูกหักออกทันที แต่ถ้าหากเทรดเดอร์ปิดออเดอร์ในระหว่างวันจะไม่มีค่าใช้จ่ายประเภทนี้เกิดขึ้น ซึ่งค่าสวอปแต่ละโบรกเกอร์ล้วนแตกต่างกันจึงต้องเข้าไปดูผ่านข้อกำหนดจากเว็บไซต์ของโบรกเกอร์

  3. ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

    นอกจากค่าสเปรด ค่าคอมมิชชัน และค่าสวอป บางโบรกเกอร์ยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่ารักษาบัญชี ค่าถอนเงิน หรือค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

     

วิธีลดต้นทุนค่าธรรมเนียม

  • เปรียบเทียบโบรกเกอร์
    ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำและเหมาะสมกับกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง
  • เลือกบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน
    โบรกเกอร์หลายแห่งเสนอบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชัน ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนการเทรดได้
  • ใช้บัญชี Free Swap
    หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ถือสถานะข้ามคืนบ่อยๆ การเลือกบัญชีที่ไม่มีค่าสวอปอาจช่วยลดต้นทุนได้ โดยเงื่อนไขขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์นั้นๆ เช่น ต้องนับถือศาสนาอิสลาม หรือ ฝากเงินขั้นต่ำ $1,000 เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการเทรดข้ามคืน
    หากคุณไม่ต้องการจ่ายค่าสวอป ควรหลีกเลี่ยงการเทรดข้ามคืน โดยการปิดสถานะภายในวัน ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับเทรดเดอร์สายถือ Long ที่เปิดสถานะซื้อขายในระยะยาว
  • เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดคงที่ (Fixed Spread)
    บางโบรกเกอร์เสนอค่าสเปรดคงที่ซึ่งอาจช่วยให้คุณคาดการณ์ต้นทุนได้ดีขึ้น โดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขของโบรกเกอร์


สรุป

การรู้จักและควบคุมค่าธรรมเนียม Forex เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดและลดต้นทุนได้ การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมและการเข้าใจเงื่อนไขค่าธรรมเนียมต่างๆ จะช่วยให้นักเทรดสามารถรักษาผลกำไรได้มากขึ้น

 

 

***การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดของโบรกเกอร์แต่ละแห่งอย่างละเอียดก่อนเริ่มต้น***

 



 

แหล่งข้อมูล 

เขียนโดย

User profile image

TrustFinance Research Team

Official TrustFinance research and editorial team, sharing insights, analysis, and best practices to help financial companies and traders build transparency, credibility, and growth.

แท็ก:


บทความนี้มีประโยชน์สำหรับคุณหรือไม่?

0

0


บทความที่เกี่ยวข้อง

TrustFinance ใช้คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้