trustfinance-logo
TrustFinance

ทรัมป์ผลักดัน “กองทุนสำรองคริปโต” จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของระบบการเงินสหรัฐฯ

User profile image

TrustFinance Research Team

Thg 03 15, 2025

48

|

1 min read


Blog image

การประกาศจัดตั้งกองทุนสำรองคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนแรงในวงการการเงินโลก นโยบายนี้มุ่งหวังให้สหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและลดการพึ่งพาระบบการเงินแบบเดิม ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อตลาดคริปโตและเศรษฐกิจโลก

กองทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ จะถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลหลัก เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Solana และ Cardano โดยมีเป้าหมายเพื่อกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและเพิ่มเสถียรภาพของระบบการเงิน ทรัมป์กล่าวระหว่างแถลงการณ์ว่า Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโลกการเงิน พร้อมระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯ จะต้องเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตาม

หลังจากการประกาศดังกล่าว ราคาของ Bitcoin ทะยานขึ้นกว่า 10% ทันที ขณะที่ Ethereum และเหรียญอื่น ๆ ในกลุ่มที่ได้รับการกล่าวถึงก็ปรับตัวขึ้นตาม โดยตามข้อมูลจาก CoinGecko Ripple ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ขณะที่ Solana และ Cardano เพิ่มขึ้น 21% และ 61% ตามลำดับ Bitcoin และ Ethereum ก็เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 9% และ 12% โดย Ethereum ซื้อขายที่ราคา 2,500 ดอลลาร์ และ Bitcoin ที่ 94,069 ดอลลาร์

การถือครองคริปโตในทุนสำรองแห่งชาติอาจช่วยลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ที่มีความผันผวนในระยะยาว การเพิ่มคริปโตเข้ามาในทุนสำรองอาจช่วยกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ การประกาศของทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ที่มุ่งทำให้สหรัฐฯ กลายเป็น "ศูนย์กลางของคริปโตในโลก"

การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การยอมรับคริปโตในระดับนโยบาย อาจเป็นปัจจัยบวกที่ดึงดูดนักลงทุนสถาบันและภาคธุรกิจเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น จากการวิเคราะห์ของ JP Morgan ระบุว่า การเคลื่อนไหวนี้อาจกระตุ้นให้บริษัทยักษ์ใหญ่และกองทุน Hedge Fund เริ่มลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งสามารถขับเคลื่อนการลงทุนและพัฒนาในวงกว้างในอุตสาหกรรมนี้ โดยคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้การรับรองทางการเงินกับคริปโตมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นในอนาคต

การที่ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีจากการเรียกคริปโตว่า "หลอกลวง" ในช่วงการดำรงตำแหน่งครั้งแรก มาเป็นการสนับสนุนในแคมเปญเลือกตั้งของเขาในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เขาเคยกล่าวว่า Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ไม่ใช่เงิน แต่ในระหว่างการเลือกตั้งปี 2024 เขากลับประกาศว่า สหรัฐฯ ต้องกลายเป็นผู้นำในเรื่องนี้ โดยระบุว่า "ถ้าเราไม่ทำ จีนก็จะทำ"

การที่ทรัมป์สนับสนุนคริปโตในช่วงแคมเปญเลือกตั้งยังช่วยสร้างแรงผลักดันให้เขาและผู้สมัครคนอื่น ๆ ที่สนับสนุนคริปโตได้รับความนิยมทางการเมือง โดยมีเงินลงทุนกว่า 131 ล้านดอลลาร์ในผู้สมัครที่สนับสนุนคริปโต

แม้ว่านโยบายนี้จะได้รับเสียงสนับสนุนจากชุมชนคริปโตและนักลงทุน แต่ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสถานะของเงินดอลลาร์และความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดคริปโต ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องจัดการด้วยมาตรการที่ชัดเจน

การจัดตั้งกองทุนสำรองคริปโตของทรัมป์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการเงินโลก หากดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโตและบล็อกเชน พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดการเงินยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของนโยบายนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการความเสี่ยงและการกำหนดกฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาว

 


เครดิต: Business Insider

 

เขียนโดย

User profile image

TrustFinance Research Team

Official TrustFinance research and editorial team, sharing insights, analysis, and best practices to help financial companies and traders build transparency, credibility, and growth.

แท็ก:


บทความนี้มีประโยชน์สำหรับคุณหรือไม่?

0

0


บทความที่เกี่ยวข้อง

TrustFinance ใช้คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้